สกินแคร์

สกินแคร์ | มาทำความรู้จัก Skincare Routine

สกินแคร์ คนยุคใหม่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกายหรือสุขภาพผิว รวมไปถึงกิจวัตรการดูแลผิวพรรณเป็นประจำ ขั้นตอนการดูแลผิวพรรณที่เหมาะสม จะช่วยให้ใบหน้าของคุณดูสดใสเปล่งปลั่ง และมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น แต่ในปัจจุบัน มลภาวะก็เป็นส่วนที่ส่งผลต่อสุขภาพผิวของหลายๆ ท่าน การดูแลผิวจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่เป็นเทคนิคในการรักษาสุขภาพของผิว สกินแคร์ มีอะไรบ้าง

ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า หรือผิวกาย หากคุณมีกิจวัตรการดูแลผิวที่ดี จะช่วยให้คุณรักษาผิวพรรณให้อ่อนเยาว์ได้อยู่เสมอ ขั้นตอนตั้งแต่การล้างหน้าเป็นประจำ จนถึงการทามอยส์เจอไรเซอร์ รวมไปถึงการเพิ่มในส่วนของอาหารเสริมต่างๆ ไว้ในขั้นตอนการดูแลผิวของคุณ การทำความเข้าใจ และเพิ่มเกร็ดความรู้เหล่านี้ จะช่วยให้คุณรักษาผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง และอ่อนเยาว์อยู่คู่กับคุณไปนานๆ

สกินแคร์สำคัญอย่างไร | การดูแลผิวพรรณด้วยสกินแคร์

สกินแคร์คือ การดูแลผิวพรรณของคุณ มีความสำคัญด้วยกันหลายสาเหตุ ขั้นตอนการดูแลผิว ลำดับสกินแคร์ ที่ดี จะช่วยให้ผิวของคุณดูสุขภาพดี และเปล่งปลั่ง ป้องกันสิว ลดริ้วรอย และช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น การที่เราตระหนักถึงการดูแลผิวพรรณตั้งแต่เนิ่นๆ ย่อมเป็นสิ่งที่ง่ายกว่าการซ่อมแซมปัญหาผิวในอนาคต เมื่อผิวพรรณของคุณดูดีขึ้น สิ่งเหล่านี้สามารถส่งผลด้านบวกต่อความรู้สึกภายใน คุณจะรู้สึกดีกับตัวเอง และมีความมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้นอย่างที่คุณคาดไม่ถึง

ลำดับการลงสกินแคร์ ที่ถูกต้อง

นอกจากนี้ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ สกินแคร์รูทีน สามารถสร้างความแตกต่างให้กับผลลัพธ์ของผิวของคุณได้อย่างมาก ดังนั้นการให้ความสำคัญในจุดนี้ จึงไม่ควรละเลย สกินแคร์ ใน 7-11 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สะดวก และราคาถูก โดยวันนี้ ทาง sisskincarereviews เรามีคำตอบ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าทำไมการดูแลผิวจึงมีความสำคัญ จะแบ่งหมวดหมู่ของ skincare ขั้นตอนการลงสกินแคร์ ออกเป็นหัวข้อหลักๆ ดังนี้

สกินแคร์

1. Cleanser (ทำความสะอาดผิวหน้า)

แพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่ เห็นพ้องต้องกันว่าการทำความสะอาดใบหน้าวันละ 2 ครั้ง เป็นสิ่งสำคัญเพื่อกำจัดแบคทีเรีย สิ่งสกปรก และมลภาวะออกจากผิว อย่างไรก็ตาม มีคลีนเซอร์หลายประเภทที่เหมาะกับผิวบางประเภทมากกว่า

2. Exfoliator (ผลัดเซลล์ผิว)

การผลัดเซลล์ผิว สกินแคร์ bha เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งของการดูแลผิว แต่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล เช่น กรดซาลิไซลิก หรือกรดไกลโคลิก (Salicylic acid or Glycolic acid) เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และพร้อมรับกับการบำรุงในขั้นตอนต่อไปได้ดีมากยิ่งขึ้น

3. Treatment (บำรุง)

ผลิตภัณฑ์ทรีตเมนต์ใช้เพื่อจัดการกับปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด เช่น สิว จุดด่างดำ รอยดำ ริ้วรอย และการอักเสบ ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาจจะมาในรูปแบบของ ครีม โลชั่น เซรั่ม เจลโลชั่น และแผ่นมาสก์หน้า

4. Serum (เซรั่ม)

เซรั่มส่วนใหญ่มักจะประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยต่อสู้กับความเสียหายจากมลภาวะต่างๆ ที่เผชิญในชีวิตประจำวัน และเซรั่มยังสามารถมีส่วนผสมต่อต้านริ้วรอย เช่นเรตินอล (Retinols) และเปปไทด์ (Peptides) ซึ่งสารเหล่านี้มีส่วนช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก เพื่อปรนนิบัติผิวในขณะที่คุณนอนหลับ

5. Face Oil (ออยล์บำรุงผิวหน้า)

น้ำมันที่ใช้ในการบำรุงผิวหน้า ที่อุดมไปด้วยสารอาหารช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิวของคุณ ไม่ว่าคุณจะมีสภาพผิวอย่างไรก็ตาม น้ำมันสามารถให้ความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างมาก และน้ำมันบำรุงผิวหน้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง

สกินแคร์

6. Sunscreen (กันแดด)

ความสำคัญของครีมกันแดดคือ skincare routine ที่สำคัญมากๆ ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด มีความสำคัญต่อขั้นตอนการดูแลผิวมากที่สุด เพราะช่วยปกป้องผิวของคุณจากรังสี UVA และ UVB ที่เป็นอันตราย ซึ่งอาจนำไปสู่การทำให้เกิดผิวหน้าที่แก่ก่อนวัย จุดด่างดำ ผิวไหม้แดด หรือแม้แต่มะเร็งผิวหนัง สาร SPF สร้างเกราะป้องกันที่เหนือชั้น ไม่ให้แสงแดดทะลุผ่านเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นคุณต้องทาครีมกันแดดหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF ที่เหมาะสมกับกิจกรรมเมื่อต้องออกแดด หรือแม้แต่วันที่คุณไม่ได้ออกไปไหนก็ตาม

7. Moisturizer (มอยส์เจอไรเซอร์)

มอยส์เจอไรเซอร์มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวของคุณดูอ่อนเยาว์ แพทย์ผิวหนังแนะนำการใช้มอยส์เจอไรเซอร์ตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้า ลำคอ และเนินอก มอยเจอร์ไรเซอร์ ทาตอนไหน ควรได้รับมอยส์เจอไรเซอร์วันละ 2 ครั้ง เช่นเดียวกับข้อศอก หัวเข่า และเท้า ในปัจจุบันมีมอยส์เจอไรเซอร์หลากหลายชนิด ที่เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แต่ถ้าคุณต้องการให้ผิวของคุณชุ่มชื้นขั้นสุด ให้มองหามอยส์เจอไรเซอร์ที่มีกลีเซอรีน (Glycerin) หรือ กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic acid)

สกินแคร์

8. Chemical Peel (ผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี)

การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี จะเน้นไปที่การขจัดผิวหนังชั้นนอก ซึ่งก็คือเซลล์ผิวที่ตายแล้วนั่นเอง และสารเคมีที่กล่าวถึงก็ได้แก่ กรดไกลโคลิก ซาลิไซลิก หรือแล็กติก (Glycolic, Salicylic or Lactic acids) สามารถใช้ทุกสองสัปดาห์ แต่ข้อควรระวังก็คือ ในกลุ่มผู้ที่มีแนวโน้มเป็นผิวแพ้ง่าย ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อการใช้ที่ถูกต้อง ประโยชน์ของสารเหล่านี้ นำมาใช้เพื่อจัดการกับรอยแผลเป็นจากสิว ริ้วรอย ความเสียหายจากแสงแดด และรอยดำ

สกินแคร์

9.  Toner (โทนเนอร์)

การใช้โทนเนอร์หลังการทำความสะอาดผิวหน้า ก็เป็นส่วนที่สำคัญเช่นเดียวกัน คุณสามารถใช้โทนเนอร์วันละสองครั้ง เพื่อขจัดคราบเครื่องสำอางส่วนเกิน หรือสิ่งตกค้างอื่นๆ ออกจากผิว โทนเนอร์ยังมีส่วนช่วยกระชับรูขุมขน และคืนค่า pH ตามธรรมชาติให้กับผิวได้อีกด้วย เพราะระดับ pH ของเราอาจจะสูญเสียจากการล้างหน้า จะส่งผลให้ผิวของเราผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดวงจรของสิว และในส่วนของผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรใช้โทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์

สกินแคร์

10. Face Mask (แผ่นมาสก์หน้า)

ปัจจุบันมีมาสก์หลากหลายประเภทในท้องตลาด ตั้งแต่การเติมความชุ่มชื้น ไปจนถึงการให้ความกระจ่างใสแก่ใบหน้า ซึ่งมีประโยชน์สำหรับทุกสภาพผิว การที่คุณมาสก์หน้าทุกสัปดาห์ คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิว และลดโอกาสการเกิดสิว

สกินแคร์

11. Eye Cream (ครีมบำรุงรอบดวงตา)

ครีมบำรุงรอบดวงตา คิดค้นขึ้นสำหรับผู้มีปัญหารอบดวงตาโดยเฉพาะ เช่น อาการบวม ริ้วรอย และความหมองคล้ำ มีครีมรอบดวงตาหลายตัวที่สามารถจัดการกับหลายๆ ปัญหาพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ต้องประกอบด้วยสารสำคัญต่างๆ เช่น คาเฟอีน กลีเซอรีน คาโมมายล์ กรดไฮยาลูรอนิก สารต้านอนุมูลอิสระ และเปปไทด์ ครีมบำรุงรอบดวงตา ถูกผลิตขึ้นเป็นสูตรพิเศษ เพื่อซึมซาบสู่ผิวรอบดวงตาที่ละเอียดกว่าการใช้กับผิวหน้า สามารถใช้ได้วันละครั้งหรือสองครั้ง และเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น คุณควรมองหาครีมรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของเรตินอล หรือเปปไทด์ เพราะจะสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น

สกินแคร์ดีอย่างไร | บทสรุปว่าทำไมการดูแลผิวจึงสำคัญ

สกินแคร์ ภาษาอังกฤษ ก็คือ skincare การดูแลผิวเป็นส่วนสำคัญของสุขภาพโดยรวม ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวดูดีเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยให้ผิวแข็งแรงและได้รับการดูแลจากภายนอกสู่ภายในอีกด้วย การสละเวลาเพื่อทำกิจวัตรการดูแลผิวอยู่เป็นประจำ จะส่งผลช่วยให้ผิวของคุณดูดีที่สุดและสิ่งเหล่านี้ยังสามารถส่งผลต่อสุขภาพที่ดีได้แบบองค์รวม

ตัวเลือกมากมายให้คุณเลือกสรรให้เหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณ ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน เช่น การทำความสะอาดและการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ไปจนถึงการรักษาเฉพาะทาง เช่น ใช้สารเคมีต่างๆ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คุณก็สามารถเสริมสร้างช่วยให้ผิวของคุณดูดีที่สุด และทำให้คุณรู้สึกดีที่สุดได้